บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก มิถุนายน, 2019

Flamingo flower

รูปภาพ
หน้าวัว ชื่อวิทยาศาสตร์: Anthurium อาณาจักร: Plantae วงศ์: Araceae สายพันธุ์ที่เหนือกว่า: วงศ์บอน หมวด: Angiosperms ชั้น: สกุล   หน้าวัว (อังกฤษ: Flamingo Flower หรือ Boy Flower) เป็นสกุลของพืชในวงศ์หน้าวัว ( ARACEAE) มีถิ่นกำเนิดในฮาวาย ปัจจุบันกระจายพันธุ์ได้เกือบทุกทวีป แต่จะเจริญดีในภูมิอากาศแบบร้อนหรือร้อนชื้น (15 - 30 องศาเซลเซียส) จากฐานข้อมูลพืช ชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย เต็ม สมิตินันท์ (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2557) ได้รายงานไว้ว่าเกี่ยวกับ "ชื่อค้นหา" ของคำว่า "หน้าวัว" ในประเทศไทยทั้งหมด 4 ชื่อ คือ 1. หน้าวัวดอก ( Flamingo flower หรือ Tail flower) Anthurium × ferrierense Mast. & T. Moore 2. หน้าวัวดอกแดง ( Flamingo flower, Pigtail Anthurium หรือ Pigtail flamingo flower) Anthurium scherzerianum Schott 3. หน้าวัวไทย (เจ็ดทิวา , เดหลีใบกล้วย , Madonna lily, Peace lily หรือ Spathe flower) จัดอยู่ในวงศ์เดียวกับหน้าวัว แต่อยู่คนละสกุลกัน โดยหน้าวัวไทยจัดอยู่ในสกุล Spathiphyllum มีชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Spathiphyllum canni

kalanchoe

รูปภาพ
กุหลาบหิน อาณาจักร:       Plantae หมวด: Magnoliophyta ชั้น:      Magnoliopsida วงศ์:     Crassulaceae สกุล:    Kalanchoe สปีชีส์: K.  blossfeldiana กุหลาบหิน เป็นไม้ในสกุลที่ส่วนใหญ่เป็นไม้พุ่ม อวบน้ำและมีอายุอยู่ได้นานหลายปี มีถิ่นกำเนิดในมาดากัสกาแอฟริกาและเอเชีย เหมาะที่จะปลูกเป็นไม้กระถาง ต้นดั้งเดิมส่วนมากจะมีลักษณะต้นสูงเก้งก้าง ต่อมาได้มีการคัดเลือกพันธุ์ อันเนื่องมาจากการกระจายพันธุ์และการผสมพันธุ์ ทำให้ได้พัธุ์ใหม่ที่มีพุ่มต้นเตี้ยกะทัดรัด ลักษณะทั่วไป กุหลาบหินหรือกาลังโชเป็นไม้ประดับกระถาง เป็นพืชที่ปลูกง่าย ปลูกทั้งในและนอกอาคาร แต่ปลูกได้ดีเมือ่อยู่ ในกลางแจ้ง เพราะเป็นพืชชอบแดด กุหลาบหินเมีใบค่อนข้างกลมเป็นหยักมนซ้อนๆกันคลายดอกกุหลาบแต่ ไม่อ่อนช้อยจึงได้ชื่อว่ากุหลาบหิน กุหลาบหินเป็นไม้อวบน้ำอายุหลายปีมีพุ่มเตี้ยสูง 30 - 40 เซนติเมตร ใบเดี่ยว สีเขียวกลม ปลายมนขอบใบหยักเป็นมน ออกเวียนสลับซ้อนๆ กัน ออกดอกเป็นช่อ ช่อดอกชูสูงเหนือพุ่มใบ เป็น ดอกย่อยขนาดเล็กๆจำนวนมาก สีแดงอมส้มสด ปัจุปันมีพันธุ์ที่เป็นพุ่มเตี้ยกะทัดรัด ใบขนาดเล็ก และมี

Statice

รูปภาพ
สแตติส ชื่อสามัญ   Statice, Sea Lavender ชื่อวิทยาศาสตร์    Limonium spp. vp วงศ์ Plumbaginaceae สแตติส แคสเปียร์ เป็นไม้ดอกที่มีถิ่นกำเนิดจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็นไม้ดอกอายุหลายปีต้นสูง 60-200 เซนติเมตร ใบ เป็นใบเดี่ยวออกเวียนสลับรูปช้อนแกมรูปใบหอก ขอบใบหยักมน หรือหยักเว้า ใบสีเขียวอ่อนผิวใบมีขนหยาบสากมือ ดอก ดอกออกเป็นช่อ ก้านดอกยาว มีปีกแบนขนานทั้งกิ่ง กลับประดับรูปหลอดมีเนื้อกลีบบาง มีสีขาว เหลือง ชมพู ส้ม ม่วง และม่วงอมฟ้า ดอกจริงสีขาวขนาดเล็กแทรกในกลีบประดับ เป็นไม้ดอกที่มูลนิธิโครงการหลวงนำมาวิจัย และส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกกว่า 10 ปี มาแล้ว ดอกมีกลิ่นหอมอ่อนๆเหมือนกับกลิ่นลาเวนเดอร์ จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า Sea Lavender ด้วยรูปทรงของดอกที่มีความยาวก้าน และดอกเป็นแบบดอกย่อยประกอบเข้าเป็นช่อดอกที่มีสีม่ววงสดสวยงามสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทั้งในรูปแจกันดอกไม้สด จัดกระเช้าดอกไม้ ยังสามารถทำเป็นแจกันดอกไม้แห้งและทำเป็นดอกไม้แห้งก็ได้ จึงเป็นที่นิยมของตลาด และยังมีการใช้จนถึงปัจจุบัน ชนิดที่นิยมปลูกเป็นการค้าในปัจจุบัน คือ 1. Limonium sinuatum (L.) Mi

Carnation

รูปภาพ
คาร์เนชั่น ชื่อวิทยาศาสตร์ : Dianthus caryophyllus  วงศ์ : Caryophyllaceae  ชื่อสามัญ : Carnation  ชื่ออื่น ๆ : คาร์เนชั่น     คาร์เนชั่นมีถิ่นกำเนิดในยุโรปตอนใต้ คาร์เนชั่นที่นำเข้าส่วนใหญ่ปลูกในเรือนกระจก ทั้งสิ้น ใช้ทำเป็นไม้ตัดดอกได้เป็นอย่างดี ให้จำนวนดอกต่อต้นนับเป็นที่ 2 รองจากกุหลาบ การปลูกคาร์เนชั่นแต่ละครั้งอาจจะอยู่ได้เพียงฤดูเดียวหรือหลายฤดูก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ สถานที่และการปลูกปฏิบัติรักษา บางแห่งอาจจะปลูกได้เพียงฤดูเดียว บางแห่งอาจจะ ปลูกแล้วเก็บเกี่ยวได้นานถึง 2 -3 ปี ซึ่งตามปกติแล้วเป็นการปลูกคาร์เนชั่นในเรือนกระจก ลักษณะทั่วไป     เป็นไม้ดอกล้มลุก ลำต้นแตกกิ่งก้าน ใบรูปแถบเรียวยาว สีเขียวเข้มอมฟ้า โคนใบหุ้มข้อโป่งพองเล็กน้อย ดอกมีทั้งชนิดดอกเดี่ยวและดอกช่อ กลีบรองดอกสีเขียว รูปถ้วย กลีบดอกซ้อนฟู ขอบกลีบหยักเป็นแฉก สีขาว ชมพู เหลือง ส้ม แดง และขลิบขอบ สีต่างๆ ดอกมีทั้งชนิดดอกซ้อนและดอกชั้นเดียว ปลายกลีบดอกจะมีลักษณะหยัก ๆ คล้าย ฟันเลื่อย กลีบหุ้มดอก มีลักษณะรวมติดกันเป็นกรวยหุ้มกลีบดอกไว้ ดอกมีขนาดตั้งแต่ 1

Wool flower

รูปภาพ
หงอนไก่ ชื่อวิทยาศาสตร์: Celosia argentea L. var. cristata (L.) Kuntze ชื่อสามัญ: Cockscomb, Chinese Wool Flower ชื่ออื่น: หงอนไก่ดง หงอนไก่ดอกกลม หงอนไก่ฟ้า (ภาคกลาง) , ด้ายสร้อย สร้อยไก่ (เชียงใหม่) , หงอนไก่ฝรั่ง (ภาคกลาง) วงศ์: AMARANTHACEAE ลักษณะทางพฤกษศาสตร์:       ไม้ล้มลุก สูงประมาณ 1.0-1.5 ม. ลำต้นเป็นสัน แตกกิ่งก้านสาขามาก ผิวขรุขระ      ใบ ใบเรียงสลับ ใบเดี่ยว รูปหอกหรือรูปแถบแคบ กว้าง 1-6 ซม. ยาว 8-15 ซม. โคนใบแหลม ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ ผิวใบเป็นคลื่นและมีไข ปกคลุม เส้นใบนูนเด่นด้านท้องใบ      ดอก ดอกช่อออกที่ปลายยอด ช่อดอกกว้าง 1.5-2.0 ซม. ช่อดอกมี 2 แบบคือ รูปทรงกระบอกและแบบรูปหงอนไก่ บางครั้งพบทั้งสองแบบในต้นเดียวกัน กลีบรวมมี 4 กลีบ รูปขอบขนานแกมรูปไข่ ยาว 0.6-1.0 ซม. เกสรเพศผู้ปลายแหลมมี 5 อัน ฐานรองดอกเชื่อมติดกันเป็นแผ่นย่น เป็นก้อนกลม ใบประดับรองดอกขนาดเล็กเป็นเส้นคล้ายกำมะหยี่ ดอกสมบูรณ์เพศ กลีบดอกมีหลายสี เช่น แดงสด ขาว และเหลือง      ผล ผลรูปไข่ค่อนข้างกลม สีดำเป็นมัน ขนาดเล็ก ผลแห้งแตกแบบมีฝาเปิด สีน

about the owner of the blogger

รูปภาพ
Back to Homepage

The King’s Philosophy

รูปภาพ
https://m.youtube.com/watch?v=7dL6eIktwwc Back to Homepage

Presentation of information

รูปภาพ
Back to Homepage